ดาวบนธงชาติและแถบเส้นขาวแดงของสหรัฐหมายถึงอะไร USA FLAG
ดาวบนธงชาติสหรัฐหมายถึงอะไร แต่เดิมดาวบนธงชาติสหรัฐอเมริกามีเพียง 13 ดวง เพราะเมื่อตอนที่ร่างรัฐธรรมนูญเมื่อปี พ.ศ. 2330 นั้น สหรัฐอเมริกามีเพียง 13 รัฐเท่านั้น ต่อมาเมื่อมีรัฐเพิ่มขึ้น ก็มีการเพิ่มดาวบนธงชาติขึ้นตามจำนวนรัฐ ในปัจจุบันธงชาติของสหรัฐอเมริกามีดาวอยู่ 50 ดวงแทนรัฐ 50 รัฐ ซึ่งอยู่บนผืนแผ่นดินใหญ่ 48 รัฐ รวมกับอีก 2 รัฐ ที่อยู่แยกต่างหาก คือ รัฐอลาสก้า และฮาวาย ส่วนแถบสีแดงขาว 13 แถบ เป็นสัญลักษณ์ดั้งเดิมทั้ง 13 รัฐ
รัฐ 50 รัฐในอเมริกามีอะไรบ้าง
1.อลาบามา (Alabama) “มลรัฐแห่งนกเยลโลว์แฮมเมอร์” (The Yallowhammer State) นก Yallohammer คือนกชนิดหนึ่งตัวเล็ก หัว คอ และอกมีสีเหลือง นกชนิดนี้เป็นสัญญาลักษณ์ของรัฐอลาบามาจึงถูกนำมาตั้งเป็นชื่อเล่นของรัฐนี้
2. อลาสกา (Alaska) มีสองชื่อเล่นคือ “พรมแดนสุดท้าย” (The Last Frontiea) และ “ดินแดนแห่งพระอาทิตยเที่ยงคืน”(Land of the Midnight Sun) เพราะเป็นมลรัฐที่ใหญ่ที่สุด และอยู่ห่างไกลแผ่นดินใหญ่ที่สุดทางทิศเหนือติดพรมแดนประเทศแคนาดา
3. อริโซนา (Arizona) “มลรัฐแห่งแกรนด์แคนยอน” (Grand Canyon State) Grand Canyon เป็นแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติ มีอาณาบริเวณกว้างใหญ่ไพศาลอันประกอบด้วยหุบเขาสูงและลึก ชั้นหินสูงละลิ่วและมีแม่น้ำ Coloradoไหลผ่านจึงเป็นสัญลักษณ์และชื่อเล่นของมลรัฐนี้
4. อาร์แคนซอส์ (Arkansas) “มลรัฐแห่งธรรมชาติ” (The natural State) ประกอบด้วย ป่าไม้ ไร่อ้อย ฝ้าย ข้าวและถั่วเหลืองอันอุดมสมบูรณ์
5. แคลิฟอร์เนีย (California) “มลรัฐแห่งทองคำ” (Golden State) ในศตวรรษที่ 19 มีการตื่นทอง (The Gold Rush)เกิดขึ้นในมลรัฐนี้ จนเกิดคำพูดว่า “Go West Young Man” (ถ้าอยากรวย หรืออยากสาบสูญก็ต้องไปขุดทองทางตะวันตกของประเทศ)สัญลักษณ์ ของมลรัฐนี้คือสะพานแขวน Golden Getในเมือง San Francisco และ Hollywoodเมืองอุตสหกรรมภาพยนตร์
6. โคโลราโด (Colorado) “มลรัฐเฉลิมฉลองหนึ่งศตวรรษ” (Centennial State)มีแหล่งท่องเที่ยวที่มีภูมิประเทศงดงาม เช่นวนอุทยานเทือกเขาร๊อกกี้และสถานที่เล่นสกีอันเลื่องลือ
7. คอนเนกติกัต (Connecticut) มีสองชื่อเล่นคือ “มลรัฐแห่งรัฐธรรมนูญ” (The Constitution State) และ “มลรัฐแห่งผลจันทร์เทศ”(Nutmeg State) nutmeg เป็นเครื่องเทศชนิดหนึ่ง คือผลจันทร์เทศ นอกจากนี้มหาวิทยาลัยเยล(Yale University) ก็อยู่ในมลรัฐนี้
8. เดลาแวร์ (Delaware) มีสามชื่อเล่นคือ “มลรัฐแห่งเพชร” (Diamond State) “มลรัฐหมายเลขหนึ่ง” (First State)และ “โลกมหัศจรรย์ใบน้อย” (Small Wonder)
9. ฟลอริดา (Florida) “มลรัฐแห่งตะวัน” (Sunshine State) เพราะเป็นมลรัฐที่มีลักษณะเป็นแหลมยื่นลงไปในทะเล มีแสงแดดอบอุ่นตลอดทั้งปี มีแหล่งท่องเที่ยวระดับโลกคือ Disney World และชายหาด Miamiอันสวยงาม
10. จอร์เจีย (Georgia) มีสองชื่อเล่นคือ “มลรัฐแห่งลูกพีช” (Peach State) และ “เอ็มไพร์สเตทแห่งภาคใต้”(Empire State of The South) เพราะมีการปลูกต้นพีชมาก เมืองหลวงคือ Atlantaมีตึกสูงๆ ทันสมัยไม่น้อยหน้านิวยอร์ก
11. ฮาวายอิ (Hawaii) “อโลฮา ฮาวายอิ” (Aloha Hawaii) เป็นมลรัฐที่ ห้าสิบของประเทศคำว่า “อโลฮา”เป็นคำทักทายของชาวพื้นเมืองของหมู่เกาะชาวฮาวายอิ จึงเป็นสัญลักษณ์และชื่อเล่นของมลรัฐ Hawaii
12. ไอดาโฮ (Idaho) “มลรัฐแห่งอัญมณี” (Gem) มีการทำเหมืองแร่และป่าไม้
13. อิลลินอยส์ (Illinois) “มลรัฐที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทุ่งหญ้า”(Prairie State) เมือง Sprigfield ในมลรัฐIllinois เป็นประธานาธิบดี Abraham Lincoln ผู้เลิกระบบทาส
14. อินเดียนา (Indiana) “มลรัฐแห่งทีมบาสเกตบอลฮูเซียร์” (Hoosier State) Hoosier เป็นชื่อทีมบาสเกตบอลชื่อเสียงขจรขจาย จึงเป็นความภาคภูมิใจแห่งชาวมลรัฐ Indiana
15. ไอโอวา (Iowa) “มลรัฐแห่งตาเหยี่ยว” (Hawkeye State) เหยี่ยวเป็นสัตว์ที่ว่องไว บินสูง และมีตาแหลมคมมลรัฐนี้มีการเกษตรกรรม เช่น การทำฟาร์มและปศุสัตว์
16. แคนซัส (Kansas) มีสองชื่อเล่นคือ “มลรัฐแห่งดอกทานตะวัน” (Sunflower State) และ “มลรัฐกลุ่มผู้ต้องการล้มเลิกระบบทาส” (Jayhawk State) jayhawk เป็นกลุ่มหัวรุนแรงในมลรัฐ Kansasในสมัยสงครามกลางเมือง
17. เคนตักกี (Kentucky) “มลรัฐแห่งดนตรีเครื่องสาย” (ได้แก่ แบนโจและกีตาร์) (Bluegrass State) Kentucky ยังมีชื่อเสียงเรื่องการเลี้ยงม้าแข่งพันธุ์ดีที่สุดของโลก
18. หลุยเซียนา (Louisiana) “มลรัฐแห่งนกกระทุง” (Pelican State) นกกระทุงเป็นนกขนาดใหญ่กินปลา คอพอก เมืองNew Orleans ในมลรัฐ Louisiana เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เพราะมีบรรยากาศฝรั่งเศสและเทศกาล Mardi Gras
19. เมน (Maine) “มลรัฐแห่งต้นสน” (Pine Tree State) ต้นสนมีใบแหลมมีรูปเป็นกรวย ที่ใดมีป่าสนที่นั่นอากาศดี เพราะต้นสนให้ออกซิเจน มลรัฐนี้มีภูมิประเทศเป็นภูเขาและทะเลสาบ
20. แมรีแลนด์ (Maryland) มีสองชื่อเล่นคือ “มลรัฐแห่งเสรีภาพ” (Free State) และ “มลรัฐแห่งสายเก่า”(Old line State) เป็นหนึ่งใน 13 รัฐแรก
21. แมสสาซูเสตส์ (Massachusetts) มีสองชื่อเล่นคือ “มลรัฐแห่งอ่าวทะเล” (Bay State)และ “มลรัฐแห่งอาณานิคมอันเก่าแก่”(Old Colony State) เป็นหนึ่งใน 13 รัฐแรกและมีประวัติศาสตร์เป็นศูนย์กลางของปัญญาชนและนักศึกษา
22. มิชิแกน (Michigan) “มลรัฐแห่งวูฟเวอรีน” (Wolverine State) วูฟเวอรีน (Wolverine)เป็นสัตว์ในเขตหนาวจำพวกสุนัขจิ้งจอก คล้ายแมว เลี้ยงลูกด้วยนม มีขนยาวสีดำ Michigan ล้อมรอบด้วยทะเลสาบถึงสี่ทะเลสาบ และเป็นรัฐอันดับหนึ่งที่ผลิตรถยนต์และอุตสาหกรรมการผลิตเหล็ก โดยมีเมืองDetroit เป็นเมืองอุตสาหกรรมสำคัญ
23. มินเนโซตา (Minnesota) มีสามชื่อเล่นคือ “มลรัฐแห่งดาวเหนือ” (North Star State) “มลรัฐแห่งกระรอกโกเฟอร์”(Gopher State) และ “ดินแดนแห่ง 10,000 ทะเลสาบ”(Land of 10,000 Lakes)โกเฟอร์ (gopher) เป็นกระรอกอยู่ทวีปอเมริกาเหนือคล้ายหนูขนาดใหญ่ มีกระพุ้งแก้มใหญ่มาก
24. มิสซิสซิปปี (Mississippi) มีชื่อเล่นว่า “มลรัฐแห่งดอกแมกโนเลีย” (Magnolia State) แมกโนเลีย (Magnolia)เป็นพันธุ์ไม้ชนิดหนึ่ง จำพวกดอกมณฑามีดอกสีขาว ชมพู ม่วง และเหลือง Mississippi ยังเป็นรัฐที่มีการปลูกฝ้ายมากที่สุดในประเทศ
25. มิสซูรี (Missouri) “มลรัฐที่มีสิ่งให้ชมมากมาย” (Show-me State) มลรัฐนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์เช่น Hannibal เป็นบ้านเกิดเมืองนอนของนักประพันธ์เอก Mark Twain และพิพิธภัณฑ์ Jesse James
26. มอนตานา (Montana) “มลรัฐแห่งสมบัติล้ำค่า” (Treasure State) สิ่งที่มีค่าของมลรัฐนี้ คือ การเกษตร การล่าสัตว์ และการเลี้ยงสัตว์ เช่น แกะ และปศุสัตว์
27. เนบราสกา (Nebraska) มีสองชื่อเล่นคือ “มลรัฐแห่งผู้แกะข้าวโพด” (Cornhusker State) และ “มลรัฐแห่งเนื้อวัว”(Beef State) ทั้งสองชื่อนี้แสดงว่ามลรัฐนี้อุดมสมบูรณ์ไปด้วยข้าวโพดและวัว และยังมีอุตสาหกรรมบรรจุเนื้อสัตว์ในเมืองใหญ่ ๆ อีกด้วย
28. เนวาดา (Nevada) มีสามชื่อเล่นคือ “มลรัฐแห่งพันธุ์ไม้ละเมาะ” (Sagebrush State) “มลัฐที่อุดมสมบูรณ์ด้วยแร่เงิน”(Silver State) และ “มลรัฐที่เกิดมาเพื่อการรบ” (Battle Born State) มลรัฐนี้มีคาสิโน ที่ใหญ่ที่สุดในโลกและศูนย์กลางบันเทิงชั้นแนวหน้าของโลกอยู่ใน Las Vegas
29. นิวแฮมเซียร์ (New Hampshire) “มลรัฐที่อุดมสมบูรณ์ด้วยหินแกรนิต” (Granite State) New Hampshire เป็นรัฐที่มีทัศนียภาพ งดงามและแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมาก
30. นิวเจอร์ซี (New Jersey) “มลรัฐที่อุดมสมบูรณ์ด้วยพันธุ์ไม้” (Garden State) มลรัฐนี้มีสถานที่ตากอากาศตามแนวชายฝั่ง และมีสถานคาสิโนที่ถูกต้องตามกฎหมาย
31. นิวแม็กซิโก (New Mexico) “ดินแดนแห่งมนต์ขลัง” (Land of Emchantment) ชื่อทางการของมลรัฐนี้ตั้งตามประเทศแม็กซิโกที่อยู่ติดกัน
32. นิวยอร์ก(New York) “มลรัฐแห่งตึกระฟ้าเอ็มไพร์สเตท” (Empire State) ซึ่งเป็นตึกระฟ้าที่สูงที่สุดในสหรัฐอเมริกาจึงเป็นสัญลักษณ์และชื่อเล่นของมลรัฐนี้ “แอปเปิลผลใหญ่” (The Great Apple) คืออีกฉายาหนึ่งที่ใช้เรียกรัฐนี้อย่างไม่เป็นทางการแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของมลรัฐนี้คือน้ำตกไนแอการา (Niagara Falls)
33. นอร์ธแคโรไลนา (North Carolina) “มลรัฐแห่งน้ำมันดิบ” (Tar Heel State) North Carolina เป็นบ้านเกิดเมืองนอนของ Carl Sandburg นักประพันธ์ร่วมสมัยในศตวรรษที่ 20
34. นอร์ธดาโกตา (North Dokota) มีสี่ชื่อเล่นคือ “มลรัฐแห่งอินเดียนแดงเผ่าเซอุ๊กซ์” (Sioux State) “มลรัฐแห่งนกฟลิกเคอร์เทล”(Flickertail State) “มลรัฐแห่งอุทยานสันติภาพ” (Peace Garden State) และ“มลรัฐแห่งผู้ขับขี่ทรหด” (Rough Rider State)
35. โ อไฮโอ (Ohio) “มลรัฐแห่งตาไม้” (The Buckeye State) buckeye คือบริเวณใจกลางของเนื้อไม้ซุงหรือตาไม้ซุงลักษณะเป็นวงเล็ก ๆ ที่ซ้อนด้วยวงใหญ่ ๆ Ohio เป็นบ้านเกิดเมืองนอนของประธานาธิบดีถึงห้าท่านมีเมือง Youngstown เป็นเมืองสำคัญด้านอุตสาหกรรมเหล็ก
36. โอกลาโฮมา (Oklahoma) “มลรัฐแห่งอนาคตอันใกล้” (Sooner State) ในอดีต มลรัฐนี้เป็นดินแดนอยู่ห่างไกลความเจริญ(The Wilderness) และเป็นถิ่นฐานของอินเดียนแดง
37. ออเรกอน (Oregon) “มลรัฐแห่งตัวบีเวอร์” (Beaver State) beaver เป็นสัตว์ชนิดหนึ่งจำพวกหนู คล้ายนากกินปลาขนาดเท่าแมว ฟันคม สามารถกัดต้นไม้ใหญ่ ๆ ให้ล้มได้ หนังมีขนละเอียดใช้ทำเครื่องกันหนาวอาศัยอยู่ในน้ำ Oregon มีอุตสาหกรรมจับปลาแซลมอนที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
38. เพนซิลเวเนีย (Pennsylvania) “มลรัฐที่เป็นหลักสำคัญ” (Keystone State) Keystone คือหินก้อนที่อยู่บนสุดตรงกลางของยอดโค้งหรือหลังคาโค้งทำหน้าที่ยึดหินก้อนอื่น ๆ มิให้คลาดเคลื่อนหรือหลุดจากกัน ดังเช่น Pennsylvaniaซึ่งเป็นมลรัฐที่มีบทบาทสำคัญในการก่อตั้งประเทศ
39. โรดไอส์แลนด์(Rhode Island) “มลรัฐแห่งมหาสมุทร” (Ocean State) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกติดมหาสมุทรแอตแลนติก
40. เซาธ์แคโรไลนา (South Carolina) “มลรัฐแห่งต้นปาล์มรูปใบพัด” (Palmetto) South Carolina เป็นสมรภูมรบสำคัญทางประวัติศาสตร์ในสมัยสงครามกลางเมือง
41. เซาธ์ดาโกตา (South Dakota) มีสองชื่อเล่น “มลรัฐแห่งภูเขารัชมอร์” (Mount Rushmore Sate) และ “มลรัฐแห่งไคโอต”(Coyote State) เป็นภูเขา Rush More ที่ด้านหนึ่งแกะสลักเป็นรูปใบหน้าของประธานาธิบดีสี่ท่านได้แก่่ George Washingtom, Thomas Jefferson, Abraham Lincoln และ TheodoreRoosevelt ส่วน coyote เป็นหมาป่าตัวเล็ก อาศัยอยู่ภาคตะวันตกของอเมริกา
42. เทนเนสซี (Tennessee) “มลรัฐแห่งอาสาสมัคร” (Volunteer State) แหล่งท่องเที่ยวสำคัญคือเมือง Memphis บ้านเกิดเมืองนอนของ Elvis Presley นักร้องในศตวรรษ 1960
43. เท็กซัส (Taxas) “มลรัฐแห่งดาวดวงเด่น” (Lone Star State) เพราะมลรัฐนี้มีธงประจำรัฐเป็นรูปดาวดวงเดียวโดดเด่น เอกลักษณ์อีกอย่างของมลรัฐนี้คือการขี่ม้าผาดโผนที่เรียกว่า Rodeo cowboy เมืองสำคัญคือ Houston ซึ่งเป็นฐานปล่อยจรวดและศูนย์ฝึกมนุษย์อวกาศ
44. ยูทาร์ (Utah) “มลรัฐแห่งรังผึ้ง” (Beehive State) เมือง Salt Lake City ในรัฐ Utah เคยเป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวใน ค.ศ. 2002
45. เวอร์มอนต์ (Vermont) “มลรัฐแห่งภูเขาสีเขียว”(Green Mountain State ) นักท่องเที่ยวนิยมเล่นสกีและตกปลาตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญต่าง ๆ ของมลรัฐนี้
46. เวอร์จิเนีย (Virginia) มีสองชื่อเล่นคือ “มลรัฐที่การปกครองอย่างเก่า” (The Old Dominion) และ “เมืองมารดรแห่งประธานาธิบดี”(Mother of Presidentts) เพราะเป็นบ้านเกิดเมืองนอนของประธานาธิบดีสามท่านโดยเฉพาะประธานาธิบดีท่านแรก George Washington และมีเมือง Jamestown ป็นเมืองประวัติศาสตร์เพราะเป็นเมืองแรกที่มีคนผิวขาวอพยพเข้ามาตั้งรกรากและเป็นเมืองแรกที่มีทาสผิวดำ
47. วอชิงตัน (Washington) “มลรัฐที่เขียวชอุ่มตลอดปี” (Evergreen State) มีเมืองสำคัญคือ Seattle ซึ่งเป็นศูนย์วิทยาศาสตร์อากาศ
48. เวอร์จิเนียตะวันตก (West Virginia) “มลรัฐแห่งภูเขา” เพราะพื้นที่เต็มไปด้วยภูเขาสูง ๆ ต่ำ ๆนอกจากนี้ยังมีอุทยานแห่งชาติ ป่าไม้และบริเวณสันทนาการมากมาย
49. วิสคอนซิน (Wisconcin) มีสองชื่อเล่นคือ “มลรัฐแห่งแบดเจอร์” (Badger State) และ “มลรัฐแห่งนมเนย” (Dairy State)badger คือสัตว์ชนิดหนึ่งขนาดเท่าสุนัขจิ้งจอก เท้ามีเล็บอย่างหมี และมลรัฐนี้ยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยนมเนย
50. ไวโอมิง (Wyoming) “มลรัฐแห่งความเสมอภาค”(Equality State)สัญลักษณ์คือวนอุทยาน Yellowstoneซึ่งเป็นวนอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศสหรัฐอเมริกา
ที่มา
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=tanny-us&month=03-2008&date=26&group=12&gblog=2
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น